“แจกทริค” เลือกแหวนเพชรยังไงให้ถูกใจ ไม่เสียดายเงินที่จ่ายไปแน่นอน

หากต้องการเลือกแหวนเพชรสักวงนึง คงไม่ใช่แค่การกำหนดงบประมาณใช่ไหมคะ…ทางร้าน A-TIARA จะมาแนะนำวิธีการเลือกแหวนเพชรให้เหมาะสมกับผู้สวมใส่ นอกจากจะเลือกให้ถูกใจแล้วก็ยังจะได้แหวนในราคาที่เหมาะสมอีกด้วย

1.กำหนดงบประมาณ งบประมาณเป็นสิ่งสำคัญมากค่ะในการกำหนดขอบเขตการเลือกของเรา ลองคิดภาพตามนะคะว่า ถ้าเราไม่ได้กำหนดงบประมาณไว้ตั้งแต่แรกการตัดสินใจเลือกสินค้าสักชิ้นนึงคงยากใช่ไหมล่ะคะ? แต่กลับกันถ้าวันนี้เรากำหนดงบประมาณไว้ในใจแล้ว เราก็จะมองหาสินค้าที่ราคาเหมาะสมกับงบที่เราได้ตั้งไว้ แบบนี้ก็คงตัดสินใจเลือกได้ดีและเร็วกว่า

2.ศึกษาวิธีการดูเพชรแบบ 4Cs (มาตรฐานของเพชรที่ถูกคิดค้นขึ้นมาโดยสถานบัน GIA )เพราะราคาของเพชรนั้นมีราคาที่แตกต่างกันมาก โดยจะขึ้นอยู่กับ

  • Carat Weight น้ำหนักของเพชร (มีหน่วยเป็นกะรัต 1 กะรัต = 100 ตัง = 0.2 กรัม)

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการจัดลำดับราคาของเพชรนั้นขึ้นอยู่กับน้ำหนักของเพชร ยิ่งเพชรที่มีขนาดใหญ่ราคาจะยิ่งสูง สิ่งสำคัญนอกจากมองดูขนาดด้วยตาเปล่าแล้ว เราควรมองด้วยว่าหน้ากว้าง และความลึกของเพชรนั้นมีขนาดเท่าไหร่ เพราะต่อให้เพชรบางตัวจะมีขนาดเท่ากันแต่อาจจะมีขนาดที่แตกต่างกันก็ได้

  • Color ระดับความขาวของเพชร (เพชรยิ่งขาว ยิ่งมีมูลค่าสูง) ซึ่งมูลค่าของเพชรจะเพิ่มขึ้นตามระดับความขาว โดยระดับความขาวที่สุดคือ

D color = เพชรน้ำ 100

H color = น้ำ 96

K-M color = น้ำ 93-91

เทคนิคการดูสี : คว่ำเพชรลงบนกระดาษสีขาว จะช่วยให้เห็นสีของเพชรได้ง่ายขึ้น

  • Clarity ระดับความสะอาดของเพชร (ส่วนมากเพชรจะมีตำหนิอยู่แล้วในส่วนของภายในตัวเพชรเอง ซึ่งจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับเพชรแต่ละเม็ด) ระดับความสะอาดที่นิยมก็มีตั้งแต่ระดับ IF (Internally Flawless) คือ ไม่มีตำหนิเลย ไปจนถึง vs2 คือ มีตำหนิเล็กน้อยแต่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า เพชรที่สะอาดหมดจดจริงๆจะหายากมาๆจึงทำให้เพชรนั้นมีมูลค่าสูง
  • Cut การเจียระไนเพชร การเจียระไนเพชรนั้นส่งผลสำคัญกับเพชรมากในส่วนของการเล่นไฟของเพชร ซึ่งความสวยแวววาวของเพชรนั้นก็ขึ้นอยู่กับการเจียระไนนี่แหละ ซึ่งเพชรที่สมบูรณ์แบบมากๆนั้นจะเล่นไฟจนรู้สึกว่าสวยสะดุดตา เรียกว่าเหลี่ยม Heart & Arrows

นี่คือปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ราคาของเพชรนั้นมีความแตกต่างกัน อีกทั้งยังมีปัจจัยอื่นๆมารวมด้วย เช่น

3.Fluorescence หรือสารเรืองแสง ซึ่งจะส่องให้เห็นได้ภายใต้แสง UV ทำให้สีของเพชรดูขาวขึ้นกว่าสีปกติ สำหรับเพชรขนาด 0.30ctขึ้นไปนั้น เพชรที่มี Fluorescence จึงมีราคาถูกกว่า

  • Non fluorescence แทบจะไม่มีการเรืองแสงเลย ทำให้เพชรมีมูลค่าสูงที่สุด
  • Faint เรืองแสงปานกลาง มูลค่าเพชรลดลง 2-5%
  • Medium เรืองแสงค่อนไปทางเข้ม มูลค่าเพชรลดลง 5-10%
  • Strong เรืองแสงระดับเข้ม มูลค่าเพชรลดลง 10-15%
  • Very strong เรืองแสงเข้มที่สุด มูลค่าเพชรลดลง 15-20%

4.Certificate ใบเซอร์ของเพชร ควรเลือกเพชรที่มีใบเซอร์จากสถาบันชั้นนำเท่านั้น เพื่อความมั่นใจที่ว่าเพชรที่ได้นั้นสวยได้มาตรฐาน โดยในใบรับรองคุณภาพจะบอกรายละเอียดเกี่ยวกับเพชรเม็ดนั้นๆว่ามีคุณลักษณธอย่างไรบ้าง (4Cs) อีกทั้งยังบอกชนิดของตำหนิของเพชรนั้นๆอีกด้วย

5.เลือกร้านเพชรที่มีความน่าเชื่อถือ ควรเลือกร้านที่มีหน้าร้าน แหล่งที่ตั้งชัดเจน ค้นหาง่าย มีประสบการณ์ ความรู้ ความเชี่ยวชาญเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ให้บริการนั้นสามารถให้ความรู้ที่ถูกต้อง คำแนะนำที่ดี และตอบข้อสงสัยต่างๆให้แก่ลูกค้าได้อย่างชัดเจน

6.เลือกเพชรที่ใช่ ในสไตล์ที่ชอบ กลับมาดูในส่วนของงบประมาณที่เราจัดไว้ในตอนแรก หลังจากที่เราศึกษาปัจจัยต่างๆมาแล้วคิดว่าตัวเองให้ความสำคัญกับปัจจัยไหนมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขนาด ความขาว ความสะอาด น้ำหนักหรือการเจียระไน (แนะนำว่าเกรดสวยสุด คือ 3 Excellent เท่านั้น)

7.เลือกดีไซน์ที่เหมาะสม นอกจากจะดูเรื่องความสวยงามแล้วอีกหนึ่งสิ่งที่เราควรสังเกต คือเรื่องความแข็งแรงและความเหมาะสมในการใช้งานด้วย ถ้าต้องการใส่ในชีวิตประจำวันน่าจะเหมาะกับแหวนที่เรียบๆมากกว่า

8.ตรวจสอบความเรียบร้อยของแหวน ทั้งเลขเลเซอร์บนขอบเพชรว่าตรงกับเลขที่ระบุไว้ในใบเซอร์รึเปล่า เมื่อตรวจสอบแล้วลองสวมแหวนดูว่าขนาดพอดีกับนิ้วหรือไม่ แหวนที่ดีควรจะใส่สบายๆแต่ไม่ควรถอดง่ายจนเกินไป ต้องกระชับนิ้วพอสมควรไม่งั้นแหวนเพชรที่ใส่จะหมุนคว่ำลง

Similar Posts